ความลับของเศรษฐี
ผมเชื่อว่าความร่ำรวยต้องมีสิ่งสำคัญเป็นอันดับแรกคือความรู้ ตอนนี้มีหนังสือมากมายที่เขียนเกี่ยวกับประวัติ เคล็ดลับ การทำงานหรือการใช้ชีวิตของเหล่ามหาเศรษฐีเขามียุทธวิธีในการดำเนินธูรกิจอย่างไร แต่ดูเหมือนง่ายบนตัวอักษรถ่ายทอดผ่านหนังสือถึงกลยุทธและยุทธวิธีของการดำเนินกิจการ ซึ่งถ้าได้ลงมือปฎิบัติกับตนเองแล้วจะคิดเลยว่าไม่มีอะไรง่าย
ไม่ใช่ว่าเศรษฐีไม่มีผลกระทบ คำว่าเศรษฐีนั้นคือความมั่งคั่งและเชื่อว่าจุดกำเนิดเศรษฐีมาจากเศรษฐีกิจแบบทุนนิยมที่กำเนิดโดยฝรั่ง พื้นเพฝรั่งนั้นมาจากคนอินเดียนแดง ชอบฝักใฝ่หาความรู้และสิ่งใหม่ๆแบบสุดโต่ง ซึ่งยุคทุนนิยมนี่เองที่ได้กำเนิดเศรษฐกิจและเทคโนโลยีอันก้าวหน้ามาถึงทุกวันนี้ ผลกระทบของเศรษฐกิจแบบทุนนิยมคือ การสร้างสรรค์ที่ไม่เคยหยุดคิด โรงงานต่างๆผุดขึ้นมาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อพัฒนาสินของต่างๆกับโลกใบนี้ ผลกระทบที่เกิดจากเศรษฐกิจแบบทุนนิยมคือการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ที่ส่งผลกระทบให้โลกร้อนขึ้น ร้อนขึ้น นี่เองคือผลกระทบการผลิตอย่างไม่บรรยะบรรยัง และอีกผลกระทบที่ตามมาของเศรษฐกิจแบบทุนนิยมคือ ก่อให้เกิดความโลภ ของมนุษย์มากขึ้น
เมื่อก่อนประเทศไทยที่เศรษฐกิจแบบทุนนิยมยังไม่เข้ามา คนไทยก็อยู่กันได้อย่างสุขสบาย พายเรือออกไปเจอผักบุ้งกลางน้ำเก็บเอามาผัดกินกันทั้งครอบครัว แต่เดี๋ยวนี้แค่นั่งบนรถไฟฟ้าบีทีเอสเห็นหน้าบึ้งกันไปหมด อะไร ๆ ไม่ใช่ว่าเศรษฐกิจแบบทุนนิยมไม่ดี แต่วันนี้มนุษย์เราโลภเกินไป ถ้าเราอยู่อย่างพอดีใช้อย่างพอดีก่อให้เกิดความพอดีในชีวิต และความพอดีในชีวิตสามารถค้นพบความสุขที่แท้จริงของชีวิตได้อย่างง่ายดาย
เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะโลกใบนี้พัฒนาไปเรื่อยๆไม่อยู่กับที่ ก็ขอให้ทุกคนลองคิดถึงว่าอะไรคือความพอดีของชีวิต และเป้าหมายในชีวิตหนทางแห่งความสุขบนชีวิตเราคืออะไร ค้นพบมันแล้วเราจะสุขขีสุขขันแน่นอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น